การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ เรื่องที่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม
- Siam Fertility Clinic

- 11 พ.ค. 2565
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 7 พ.ย.

การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์เป็นก้าวแรกของการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข เพราะการวางแผนอย่างถูกต้องตั้งแต่ก่อนเริ่มตั้งครรภ์จะช่วยให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มีโอกาสมีลูกได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์
การเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้ที่พยายามมีบุตรมาระยะหนึ่ง หรืออยู่ในช่วงเตรียมเข้าสู่กระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยาก
สิ่งที่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ก่อนเริ่มตั้งครรภ์
1. ตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมความพร้อม เพราะสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของลูกน้อยได้ แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเลือด ตรวจโรคติดต่อทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย รวมถึงตรวจฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ เพื่อวางแผนการดูแลและรักษาได้อย่างเหมาะสม
หากพบความผิดปกติสามารถรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จและลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์

2. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ระบบไหลเวียนเลือดดี และช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานยืดหยุ่น ซึ่งมีผลต่อการตั้งครรภ์และการคลอด
การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น
โยคะสำหรับคุณแม่ (Prenatal Yoga)
เดินเร็ว
ว่ายน้ำ
การออกกำลังกายยังช่วยให้คุณแม่ได้ฝึกการควบคุมลมหายใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงคลอด และช่วยลดความเครียดในระหว่างตั้งครรภ์อีกด้วย

3. เลือกอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่ดีคือพื้นฐานของร่างกายที่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมน
อาหารที่แนะนำ ได้แก่
ผักผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง แดง เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
โปรตีนจากปลา ไข่ ถั่ว และธัญพืช
อาหารที่มีโฟเลต (Folic Acid) เพื่อป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์
ควรหลีกเลี่ยง:
อาหารหวานจัด ชา กาแฟ และอาหารแปรรูป (Junk Food) เพราะอาจส่งผลต่อระบบเซลล์สืบพันธุ์และสมดุลของฮอร์โมน

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพ
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่และเชื้ออสุจิ โดยเฉพาะความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการขาดการออกกำลังกาย
เคล็ดลับพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน:
นอนหลับวันละ 6–8 ชั่วโมง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
หาวิธีคลายเครียด เช่น ฟังเพลง เดินเล่น หรือทำสมาธิ
เพราะ “ความเครียด” เป็นศัตรูตัวร้ายที่ส่งผลต่อคุณภาพไข่และอสุจิ ซึ่งอาจทำให้ตั้งครรภ์ยากโดยไม่รู้ตัว

5. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม
“การควบคุมน้ำหนัก” ไม่ได้หมายถึงการลดน้ำหนัก แต่คือการรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อให้ระบบฮอร์โมนทำงานได้ปกติ
น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลให้
ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ
เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
ดังนั้น ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณเหมาะสม และปรึกษาแพทย์หากต้องการปรับน้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ต้องตรวจอะไรบ้าง?
A: โดยทั่วไปจะตรวจเลือด ตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคติดต่อ เช่น หัดเยอรมัน ไวรัสตับอักเสบ บี และซี รวมถึงตรวจฮอร์โมนและพันธุกรรม
Q: เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์นานแค่ไหนถึงเหมาะสม?
A: แนะนำให้เริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อให้ร่างกายและฮอร์โมนปรับสมดุล
Q: ถ้ามีปัญหามีบุตรยาก ควรเริ่มปรึกษาแพทย์เมื่อไร?
A: หากพยายามมีบุตรติดต่อกันเกิน 1 ปี (หรือ 6 เดือนในผู้หญิงอายุเกิน 35 ปี) ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านภาวะมีบุตรยากทันที
ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านภาวะมีบุตรยาก
สยาม เฟอร์ทิลิตี้ คลินิก (Siam Fertility Clinic) พร้อมดูแลว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคู่ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวิเคราะห์ภาวะเจริญพันธุ์ ไปจนถึงการรักษาแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีลูกอย่างปลอดภัยและมั่นใจ
หากคุณกำลังวางแผนมีบุตรและต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำ IUI, ICSI, IVF , IVF Thailand นัดปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง คลินิกรักษามีบุตรยาก เพื่อประเมินทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ





ความคิดเห็น