ทำเด็กหลอดแก้ว โอกาสสำเร็จขึ้นอยู่กับอะไร? 5 ปัจจัยสำคัญที่ต้องรู้
- Siam Fertility Clinic

- 16 ก.ย.
- ยาว 1 นาที

เข้าใจปัจจัยสู่ความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว มากกว่าแค่เรื่องโชคชะตา
การตัดสินใจทำ “เด็กหลอดแก้ว” หรือ IVF เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความหวังและความทุ่มเทของทุกคู่รัก หนึ่งในคำถามสำคัญที่อยู่ในใจของทุกคนคือ “โอกาสสำเร็จมีมากน้อยแค่ไหน?” ความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วไม่ใช่เรื่องของโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างดีที่สุดและมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล วันนี้ สยาม เฟอร์ทิลิตี้ คลินิก จะมาอธิบาย 5 ปัจจัยหลักที่มีผลโดยตรงต่อโอกาสความสำเร็จ
5 ปัจจัยหลัก กำหนดโอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว
1. อายุของฝ่ายหญิง
นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดและมีผลกระทบมากที่สุดต่อโอกาสความสำเร็จ เนื่องจากอายุของผู้หญิงส่งผลโดยตรงต่อ 2 เรื่องคือ “จำนวน” และ “คุณภาพ” ของเซลล์ไข่ เมื่ออายุมากขึ้น จำนวนไข่สำรองจะลดลง และที่สำคัญกว่านั้นคือคุณภาพของไข่ก็จะลดลงด้วย ทำให้ไข่มีแนวโน้มที่จะมีความผิดปกติทางโครโมโซมสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวอ่อนไม่ฝังตัวหรือแท้งในระยะแรก
2. คุณภาพของตัวอ่อน
ความสำเร็จในการตั้งครรภ์เริ่มต้นจากตัวอ่อนที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ซึ่งคุณภาพของตัวอ่อนนั้นเกิดจากคุณภาพของทั้งเซลล์ไข่และอสุจิประกอบกัน ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว นักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนจะทำการประเมินและคัดเลือกตัวอ่อนที่เจริญเติบโตดีที่สุดเพื่อย้ายกลับสู่โพรงมดลูก นอกจากนี้ เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT-A) ยังสามารถเข้ามาช่วยคัดเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการฝังตัวและลดอัตราการแท้งได้
3. ความพร้อมของโพรงมดลูก
แม้จะมีตัวอ่อนที่สมบูรณ์เพียงใด หากมดลูกซึ่งเปรียบเสมือน “บ้าน” ไม่พร้อม ตัวอ่อนก็ไม่สามารถฝังตัวและเจริญเติบโตได้ ปัจจัยที่สำคัญคือความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ต้องมีความหนาเหมาะสม และปราศจากปัญหาอื่นๆ ที่อาจขัดขวางการฝังตัว เช่น ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก (Polyp) เนื้องอกมดลูก (Fibroid) หรือพังผืด
4. สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก สาเหตุเริ่มต้นของภาวะมีบุตรยากก็มีผลต่อโอกาสสำเร็จเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การทำเด็กหลอดแก้วมักให้ผลการรักษาที่ดีในกรณีที่ฝ่ายหญิงมีปัญหาท่อนำไข่อุดตัน หรือฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิไม่รุนแรง แต่ในกรณีที่ฝ่ายหญิงมีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย หรือมีปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน ความท้าทายในการรักษาก็อาจมีมากขึ้น
5. ความเชี่ยวชาญของคลินิกและห้องปฏิบัติการ ปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่คุณสามารถ “เลือก” ได้ การเลือกคลินิกที่มีทีมแพทย์เฉพาะทาง พยาบาล และที่สำคัญที่สุดคือทีมนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่มีประสบการณ์สูง จะส่งผลต่อผลลัพธ์อย่างมาก ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยคือหัวใจสำคัญในการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนให้ได้ตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: คำว่า “โอกาสสำเร็จ” หมายถึงอะไร
A:ในทางการแพทย์ “โอกาสสำเร็จ” มีหลายนิยาม ตั้งแต่อัตราการตั้งครรภ์ (ตรวจพบว่าตั้งครรภ์) ไปจนถึง “อัตราการคลอดมีชีพ” (Live Birth Rate) ซึ่งหมายถึงการคลอดทารกที่แข็งแรงและมีชีวิตรอด ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการรักษา ดังนั้นเมื่อดูสถิติ ควรทำความเข้าใจว่าเป็นอัตราความสำเร็จในขั้นตอนไหน
Q: ถ้าทำเด็กหลอดแก้วครั้งแรกไม่สำเร็จ ควรทำอย่างไรต่อ
A:เป็นเรื่องปกติที่อาจไม่สำเร็จในครั้งแรก สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์เพื่อทบทวนกระบวนการในรอบที่ผ่านมา แพทย์จะวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น การตอบสนองต่อยา คุณภาพไข่และตัวอ่อน เพื่อปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมยิ่งขึ้นในรอบถัดไป
Q: การเลือกย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จหรือไม่
A:ใช่ การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Day 5) เป็นการคัดเลือกตัวอ่อนตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง เพราะตัวอ่อนที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะเจริญเติบโตมาถึงระยะนี้ได้ ทำให้การย้ายตัวอ่อนในระยะนี้มีอัตราการฝังตัวต่อครั้งสูงขึ้น
เพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยการเลือกทีมที่ใช่ ที่ สยาม เฟอร์ทิลิตี้ คลินิก
แม้ว่าปัจจัยทางชีวภาพอย่างอายุจะเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่การเลือกรับการรักษากับทีมแพทย์และสถานพยาบาลที่เหมาะสม คือปัจจัยสำคัญที่คุณสามารถกำหนดได้ ที่ สยาม เฟอร์ทิลิตี้ คลินิก เรามุ่งมั่นที่จะดูแลทุกรายละเอียดในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ตั้งแต่การวางแผนกระตุ้นไข่ที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ไปจนถึงการดูแลตัวอ่อนของคุณในห้องปฏิบัติการด้วยมาตรฐานสูงสุดโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการ
หากคุณกำลังวางแผนมีบุตรและต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำ IUI, ICSI, IVF , IVF Thailand นัดปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง คลินิกรักษามีบุตรยาก เพื่อประเมินทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ





ความคิดเห็น